ประวัติความเป็นมาของ SCHECTER GUITAR RESEARCH

guitar, Schecter -

ประวัติความเป็นมาของ SCHECTER GUITAR RESEARCH

ในปี 1976 คุณ David Schecter เริ่มเปิดร้านโดยใช้ชื่อของเขาเอง Schecter Guitar Research เป็นร้านซ่อมกีตาร์ใน Van Nuys, California และยังผลิตอะไหล่ต่างๆ เช่น คอ ลำตัว ปิกอัพ ลูกบิด และวงจรต่างๆ กลายมาเป็นผู้ผลิตอะไหล่ส่งต่อไปยังผู้ผลิตกีตาร์รายอื่นๆ มีสินค้าอะไหล่รวมกันมากกว่า 400 แบบ แต่ยังไม่เคยผลิตกีตาร์เป็นของตัวเองเลย จนกระทั่งในปี 1979 Schecter ได้เริ่มผลิตกีตาร์ของตัวเองเป็นครั้งแรก โดยใช้อุปกรณ์ และอะไหล่ของตัวเองทั้งหมด ซึ่งถูกกล่าวถึงว่าเป็นกีตาร์ที่คุณภาพสูงมาก และราคาก็สูงมากเช่นกัน โดยถูกส่งออกไปจำหน่ายยังร้านดนตรีเพียง 20 ร้านทั่วทั้งอเมริกา

 

ปี 1983 Schecter มาถึงจุดที่กำลังการผลิตมีจำกัด และไม่สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการในตลาด ในปีนั้นเอง บริษัทได้ถูกซื้อโดยกลุ่มนักลงทุนจาก Texas ที่ต้องการต่อยอดจากชื่อเสียงและคุณภาพของ Schecter กลุ่มนักลงทุนจึงย้ายบริษัทไปที่ Dallas, Texas ที่พวกเขาสามารถผลิตกีตาร์ที่มีคุณภาพสูงกว่ามาตราฐานโดยยังใช้อะไหล่ต่างๆของ Schecter ประกอบกับอะไหล่นำเข้าส่วนนึง จนปีถัดมา Schecter สามารถเปิดตัวกีตาร์ และเบส 12 รุ่น ในงาน NAMM show 1984 และได้รับความนิยมอย่างมากจากนักดนตรี

 

ปี 1987 กลุ่มนักลงทุนจาก Texas ได้ขายบริษัทให้ Hisatake Shibuya ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าของ Musicians Institue (MI) ใน Hollywood คุณ Shibuya จึงย้ายบริษัทกลับไป California ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Schecter เอง โดยคุณ Shibuya ทุ่มเทความตั้งใจที่จะผลิตกีตาร์ high-end แบบสั่งทำพิเศษในราคาสูงดังเดิม จึงทำให้ Schecter กลับมาจำหน่ายเพียงไม่กี่ร้านในอเมริกา หนึ่งในนั้นคือร้าน Sunset Custom Guitars ตั้งอยู่ใน Hollywood ที่คุณ Hisatake Shibuya เป็นเจ้าของเอง และคุณ Michael Ciravolo ทำงานอยู่ ผู้ที่จะเป็นประธานบริษัทคนต่อมาของ Schecter Guitar Research ในปี 1996 คุณ Hisatake Shibuya จึงทาบทามให้ Michael Ciravolo มาเป็นประธานบริษัท และช่วยดูแลต่อจากเขา คุณ Michael Ciravolo เป็นนักดนตรีที่มีประสบการณ์มายาวนาน เป็นที่รู้จักในวงการนักดนตรีมากมาย จึงได้ดึงศิลปินชื่อดังมากมายเข้าร่วมเป็น endorsees จึงทำให้ Schecter เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวคุณ Michael Ciravolo เอง ไม่เคยชอบการออกแบบทรงกีตาร์ที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน จนในที่สุดเขาได้ออกแบบทรง “Avenger”, “Hellcat” และ “Tempest” ลงสู่ Catalog ของ Schecter และเขายังต้องการผลิตกีตาร์ที่เข้าถึงกลุ่มมือกีตาร์ยุคใหม่ ซึ่งผู้ผลิตรายใหญ่อื่นๆ ละเลย แต่ในเวลานั้น บริษัทยังคงผลิตกีตาร์แบบสั่งทำพิเศษในราคาสูงมาก ซึ่งการผลิตสูงสุดทำได้เพียง 40 ตัวต่อเดือนเท่านั้น คุณ Ciravolo จึงตัดสินใจมองหาโรงงานที่สามารถผลิตกีตาร์ Schecter ได้จำนวนมาก โดยที่ยังคงคุณภาพมาตราฐานไว้ได้ ในปีต่อมา 1997 คุณ Michael Ciravolo ได้พบผู้ผลิตกีตาร์จากฝั่งเอเชียเป็นจำนวนมากที่งาน Tokyo Music Festival และตัดสินใจร่วมงานกับทางโรงงานที่ Incheon, South Korea ซึ่งกีตาร์ Schecter ทุกตัวที่ผลิตที่ South Korea จะถูกส่งกลับไปที่อเมริกาเพื่อ set up ในโรงงาน Schecter อีกครั้งนึง จนในปีถัดมา 1998 ที่งาน NAMM show ได้เปิดตัวกีตาร์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการโดยใช้ชื่อเรียกว่า “Diamond Series”


แสดงความคิดเห็น

โปรดทราบว่าความคิดเห็นจะต้องได้รับการอนุมัติก่อนที่จะมีการเผยแพร่

แท็ก